1. ประเด็นปัญหา
1.1
ในกรณีที่สมาชิกผู้ฝากเงินในสหกรณ์ ขาดจากสมาชิกภาพด้วยเหตุเสียชีวิต แล้วทายาท
หรือผู้รับโอนประโยชน์ มิได้ไปติดต่อกับสหกรณ์เพื่อขอรับเงินฝากคืน
หรือในกรณีที่สมาชิกผู้ฝากเงินขาดจากสมาชิกภาพด้วยเหตุอื่น ๆ มิได้ไปติดต่อกับสหกรณ์เพื่อขอรับเงินฝากคืน
ซึ่งทั้งสองกรณี สมาชิกที่ขาดจากสมาชิกภาพไม่มีภาระผูกพันที่สหกรณ์ต้องหักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์
สหกรณ์จะดำเนินการเกี่ยวกับเงินฝากค้างนานอย่างไรจึงจะถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย และไม่เกิดข้อพิพาทในภายหน้า
1.2
กรณีที่สมาชิกยังไม่ขาดจากสมาชิกภาพแต่ไม่มาติดต่อสหกรณ์เลย
2.
ข้อกฎหมาย
2.1
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวด 2 วิธีเฉพาะการฝากเงิน
มาตรา
672 ถ้าฝากเงิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้รับฝากไม่พึงต้องส่งคืนเป็นเงินทองตราอันเดียวกันกับที่ฝาก
แต่จะต้องคืนเงินให้ครบจำนวน
อนึ่ง
ผู้รับฝากจะเอาเงินซึ่งฝากนั้นออกใช้ก็ได้ แต่หากจำต้องคืนเงินให้ครบจำนวนเท่านั้น
แม้ว่าเงินซึ่งฝากนั้นจะได้สูญหายไปด้วยเหตุสุดวิสัยก็ตาม
ผู้รับฝากก็จำต้องคืนเงินเป็นจำนวนดังว่านั้น
มาตรา
673 เมื่อใดผู้รับฝากจำต้องคืนเงินแต่เพียงเท่าจำนวนที่ฝาก
ผู้ฝากจะเรียกถอนเงินคืนก่อนถึงเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ไม่ได้
หรือฝ่ายผู้รับฝากจะส่งคืนเงินก่อนถึงเวลานั้นก็ไม่ได้ดุจกัน
มาตรา
193/14 อายุความย่อมสะดุดหยุดลงในกรณีดังต่อไปนี้
(1)
ลูกหนี้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องโดยทำเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ให้
ชำระหนี้ให้บางส่วน ชำระดอกเบี้ย ให้ประกัน หรือกระทำการใด ๆ
อันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้เห็นเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้อง
มาตรา
193/30 อายุความนั้น ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ
ให้มีกำหนดสิบปี
2.2
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา
42/2 สมาชิกอาจทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้รับโอนประโยชน์ในเงินค่า
หุ้น เงินฝาก หรือเงินอื่นใดจากสหกรณ์เมื่อตนถึงแก่ความตาย
โดยมอบไว้ให้แก่สหกรณ์เป็นหลักฐาน
2.3
ระเบียบสหกรณ์ฯ ว่าด้วยการรับเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ พ.ศ.
…. กำหนดเรื่อง วิธีการคิดดอกเบี้ย และการจ่ายดอกเบี้ย ไว้ว่า “ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้คำนวณเป็นรายวันตามยอดเงินคงเหลือและสหกรณ์จะนำดอกเบี้ยทบเป็นต้นเงินเข้าบัญชีเงินฝากในวันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์
ให้ผู้ฝากรีบยื่นสมุดคู่ฝาก ณ สำนักงานสหกรณ์ เพื่อสหกรณ์บันทึกรายการดอกเบี้ยให้”
และ “ถ้าผู้ฝากไม่ถอนเงินฝากประจำเมื่อครบกำหนดพร้อมดอกเบี้ย
จนพ้นกำหนดไปอีกเจ็ดวันก็เป็นอันถือว่าผู้ฝากตกลงฝากต้นเงินฝากพร้อมดอกเบี้ยต่อไปอีกเท่าระยะเวลาเดิม”
3.
ข้อวินิจฉัย
3.1
ในกรณีที่สมาชิกขาดจากสมาชิกภาพด้วยเหตุเสียชีวิต
โดยไม่มีภาระผูกพันที่สหกรณ์ต้องหักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์
สหกรณ์จะจ่ายคืนเงินคงเหลือทั้งหมดในบัญชีเงินฝากให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้ตั้งไว้
หรือถ้ามิได้ตั้งไว้ก็คืนให้แก่บุคคลที่ได้นำหลักฐานมาแสดงให้เป็นที่พอใจต่อคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ว่าเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินจำนวนดังกล่าวนั้น
3.2
ในกรณีที่สมาชิกขาดจากสมาชิกภาพด้วยเหตุลาออกหรืออื่น ๆ โดยไม่มีภาระผูกพันที่สหกรณ์ต้องหักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์
ให้สหกรณ์แจ้งสมาชิกดำเนินการการถอนเงินฝากเพื่อปิดบัญชี
3.3
ในกรณีที่สมาชิก (ขาดจากสมาชิกภาพ) ทายาท หรือผู้รับโอนประโยชน์ ไม่มาติดต่อขอถอนเงิน
หรือกรณีที่สมาชิกยังไม่ขาดจากสมาชิกภาพแต่ไม่มาติดต่อสหกรณ์เลย เป็นระยะเวลานานเกินกว่า
10 ปี จะถือว่าขาดอายุความในการเรียกคืนเงินฝากหรือไม่
หากสหกรณ์ยังคงนำดอกเบี้ยทบเป็นต้นเงินเข้าบัญชีเงินฝากในวันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์
แม้สมาชิกตาม 3.3 จะไม่ได้มาติดต่อนานเกิน 10 ปี ก็จะไม่ถือว่าขาดอายุความ เพราะถือว่าสหกรณ์ได้ปฏิบัติการชำระดอกเบี้ยทุกระยะเวลา
1 ปี
อันเป็นการรับสภาพหนี้ต่อผู้ฝากซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องด้วยการชำระดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 193/14 (1)
เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงและอายุความจะสะดุดหยุดลงเรื่อยไปทุกระยะเวลา 1 ปี
ข้อสังเกต
กรณีที่สมาชิกขาดจากสมาชิกภาพไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ตามข้อบังคับ
สมาชิกย่อมไม่มีสิทธิฝากเงินในสหกรณ์ ตามมาตรา 46 (5) แห่ง พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ.
2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สหกรณ์ต้องโอนบัญชีเงินรับฝากไปยังบัญชีเงินรอจ่ายคืน
(เพื่องดคิดดอกเบี้ย) เมื่อสมาชิก (ขาดจากสมาชิกภาพ) ทายาท หรือผู้รับโอนประโยชน์
ไม่ได้มาติดต่อนานเกิน 10 ปี จะถือว่าขาดอายุความในการเรียกคืนเงินฝาก
3.3
กรณีที่สมาชิกยังไม่ขาดจากสมาชิกภาพแต่ไม่มาติดต่อสหกรณ์เลย หากสหกรณ์กำหนดเงื่อนไขบางประการ
เพื่อระงับการคิดดอกเบี้ย (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ระเบียบสหกรณ์ฯ
ว่าด้วยการรับเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ พ.ศ. …. กำหนดว่า
“ในการส่งเงินเข้าบัญชีเงินฝากทุกครั้ง
ให้ทำใบส่งเงินตามแบบพิมพ์ที่สหกรณ์กำหนดยื่นพร้อมด้วยสมุดคู่ฝากและจำนวนเงินฝากต่อเจ้าหน้าที่สหกรณ์
ณ สำนักงานสหกรณ์ ทั้งนี้ ผู้ฝากหรือผู้อื่นจะเป็นผู้ส่งเงินก็ได้ เมื่อสหกรณ์ได้ลงบันทึกรายการจำนวนเงินฝากที่ได้รับนั้นในสมุดคู่ฝาก
และตรวจสอบเป็นการถูกต้องแล้ว สหกรณ์จะคืนสมุดคู่ฝากให้ผู้ฝาก...”
“ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้คำนวณเป็นรายวันตามยอดเงินคงเหลือและสหกรณ์จะนำดอกเบี้ยทบเป็นต้นเงินเข้าบัญชีเงินฝากในวันสิ้นปีทางบัญชีของสหกรณ์
ให้ผู้ฝากรีบยื่นสมุดคู่ฝาก ณ สำนักงานสหกรณ์ เพื่อสหกรณ์บันทึกรายการดอกเบี้ยให้”
เนื้อหาของระเบียบดังกล่าว
กำหนดให้สมาชิกต้องมาติดต่อสหกรณ์ทุกครั้งที่มีการฝาก-ถอนเงิน แต่อย่างน้อยปีละ 1
ครั้ง เพื่อให้สหกรณ์บันทึกรายการดอกเบี้ย
สหกรณ์จึงอาจกำหนดเนื้อหาในระเบียบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไม่มาติดต่อสหกรณ์เป็นระยะเวลานาน
เช่น การโอนบัญชีเงินรับฝากไปยังบัญชีเงินรอจ่ายคืน (เพื่องดคิดดอกเบี้ย) ทั้งนี้
ระเบียบว่าด้วยการรับฝากเงินดังกล่าว
ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์จึงจะมีผลบังคับ
การใช้
FinTect
ในสหกรณ์ โดยสหกรณ์มี Application ให้สมาชิกใช้บริการก็อาจแก้ไขปัญหาได้
การเก็บเงินค่ารักษาบัญชี
(สำหรับบัญชีที่สมาชิกขาดการติดต่อเป็นระยะเวลานาน) ก็เป็นอีกแนวคิดหนึ่ง
แต่ต้องกำหนดในระเบียบฯ ว่าด้วยการรับฝากเงินฯ และต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนสหกรณ์จึงจะมีผลบังคับ
บทความนี้มีเจตนาเพื่อแก้ไขปัญหาเงินฝากค้างนานเท่านั้น
โดยเฉพาะกรณีที่สมาชิกขาดจากสมาชิกภาพแล้วสำหรับเงินฝากจำนวนน้อย ๆ
แต่สมาชิกยังติดต่อสหกรณ์เป็นประจำสม่ำเสมอ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะผู้เขียนเองก็มีเงินฝากในสหกรณ์จำนวนน้อยมาก
ๆ แต่มีความเคลื่อนไหวตลอด ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ที่โอนเข้ามา เงินปันผล
และเงินเฉลี่ยคืนที่สหกรณ์โอนเข้าบัญชีเงินฝากหลังจากประชุมใหญ่แล้ว
คำพิพากษาที่เกี่ยวข้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
350/2475
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
6861/2537
คำพิพากษาศาลฎีกาที่
6885/2543