มีเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ครอบครัวหนึ่ง เล่าปัญหาให้ผมฟังเกี่ยวกับการนำที่ดิน ส.ป.ก. ไปค้ำประกันเงินกู้ ซึ่ง สถาบันการเงินส่วนใหญ่เขาไม่รับนะครับ เพาะเป็นที่ดินของรัฐ เกษตรกรเป็นเพียงผู้มีสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดิน เพราะหากมีการผิดนัดการชำระหนี้ เจ้าหนี้จะไปฟ้องคดีบังคับคดีเอาที่ดิน ส.ป.ก. ออกขายทอดตลาดไม่ได้ เนื่องจากที่ดิน ส.ป.ก. เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตามมาตรา 36 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และที่แก้ไข กำหนดว่า “บรรดาที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่เวนคืนตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม”
ที่ดิน ส.ป.ก.
จึงถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่ห้ามยึด และ ที่ดิน ส.ป.ก.
ไม่ใช่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะมีสิทธินำยึดและขายทอดตลาดนำเงินมาชำระแก่ตนได้
ซึ่งเป็นไปตาม มาตรา 1307 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่กำหนดว่า
“ท่านห้ามมิให้ยึดทรัพย์สินของแผ่นดินไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่”
แต่มี 2
แหล่งเงินกู้ที่เกษตรกรผู้มีสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.
สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ดังนี้
1. เกษตรกรนำที่ดิน ส.ป.ก.
ไปค้ำประกันการกู้เงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ตามบันทึกข้อตกลง ระหว่าง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตกรรม ( ส.ป.ก.)
กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรื่อง
การให้ผู้ได้รับสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมขอรับสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2556
2. เกษตรกรผู้มีสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
ส.ป.ก. สามารถกู้เงินกับกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน
ตามระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไข
การให้กู้ยืมเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน
พ.ศ. 2554
อนึ่ง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 สปก.
ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)
การร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมให้มีการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน
ซึ่งเป็นสมาชิกองค์กรเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียน ต่อ กฟก.
และได้นำหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01)
ประกันหนี้ไว้กับ ธ.ก.ส. แล้วไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่ ธ.ก.ส. ได้ เมื่อ กฟก.
เข้ารับภาระหนี้แทนเกษตรกรที่ค้างชำระหนี้ กับ ธ.ก.ส. แล้ว ให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
มีสิทธินำหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01)
มาเป็นประกันหนี้ กับ กฟก. ได้
ส่วนหนี้สหกรณ์การเกษตร สปก.
ได้ขอความอนุเคราะห์กรมส่งเสริมสหกรณ์ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบและสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับสหกรณ์
เรื่องความคืบหน้ากรณีการหาแนวทางแก้ไขปัญหาการนำ ส.ป.ก. 4-01
วางเป็นหลักประกันหนี้กับสหกรณ์การเกษตร
โดยได้มีการจัดประชุมหารือระหว่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย กองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และกรมส่งเสริมสหกรณ์
กรณีเกษตรกรสมาชิกเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยนำหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน
(ส.ป.ก. 4-01) ไปวางเป็นหลักประกันหนี้กับสหกรณ์การเกษตร โดย
1.
การนำหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01)
ไปวางเป็นประกันการชำระหนี้กับสหกรณ์การเกษตร
ถือเป็นหลักประกันที่ไม่มีผลผูกพันกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2. กรณีกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พิจารณารับชำระหนี้สินของเกษตรกรให้กับสหกรณ์การเกษตร
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมยินดีให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ยึดถือหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01)
เป็นประกันการชำระหนี้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น