สหกรณ์มีสมาชิก 2 ประเภท คือ “สมาชิก” กับ “สมาชิกสมทบ” สมาชิกทั้ง 2 ประเภท เป็นสมาชิกของสหกรณ์ โดยพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติเกี่ยวกับสมาชิกของสหกรณ์ ไว้ดังนี้
"สมาชิก" หมายความว่า สมาชิกของสหกรณ์... ซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติไทย (มาตรา 4) สมาชิกเป็นบุคคลธรรมดาและบรรลุนิติภาวะ (มาตรา 33 (2)) สมาชิกแต่ละคนจะต้องถือหุ้นอย่างน้อยหนึ่งหุ้น แต่ไม่เกินหนึ่งในห้าของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด (มาตรา 33 (3)) สมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับภายใต้บทบัญญัติมาตรา 43 (7) (มาตรา 33 (4))
“สมาชิกสมทบ” สหกรณ์ทุกประเภทอาจรับสมาชิกสมทบได้ สมาชิกสมทบต้องเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งบรรลุนิติภาวะ (มาตรา 41) และมีสัญชาติไทย (ข้อ 6 (1) แห่งระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยการรับจดทะเบียนข้อบังคับเกี่ยวกับสมาชิกสมทบของสหกรณ์ พ.ศ. 2563) เว้นแต่ “สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน” ที่ตั้งอยู่ในสถานศึกษาอาจรับผู้ศึกษาในสถานศึกษานั้นซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะให้เป็นสมาชิกสมทบได้ สมาชิกสมทบต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนสหกรณ์ประกาศกำหนด...ห้ามมิให้สหกรณ์ให้สิทธิแก่สมาชิกสมทบในการนับชื่อของสมาชิกสมทบเข้าเป็นองค์ประชุมในการประชุมใหญ่ การออกเสียงในเรื่องใด ๆ หรือเป็นกรรมการดำเนินการ หรือกู้ยืมเงินเกินกว่าเงินฝากและทุนเรือนหุ้นของตนเองจากสหกรณ์ (มาตรา 41)
สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน สมาชิกสมทบจะต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดย เป็นบิดา มารดา สามี ภรรยาหรือบุตรของสมาชิก หรือ เป็นบุคลากรหรือลูกจ้างที่ปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยงานต้นสังกัดเดียวกันกับสมาชิกและได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากหน่วยงานต้นสังกัดนั้น แต่ข้อบังคับไม่ได้กำหนดคุณสมบัติให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นสมาชิกของสหกรณ์ได้ ส่วนสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม สหกรณ์ประมง สหกรณ์บริการ และสหกรณ์ร้านค้า สมาชิกสมทบจะต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดย เป็นบิดา มารดา สามี ภรรยาหรือบุตรของสมาชิก หรือ เป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ที่ขาดคุณสมบัติเกี่ยวกับการประกอบอาชีพหลักที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกตามข้อบังคับ (ประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่อง ความสัมพันธ์ของสมาชิกสมทบกับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์ ประกาศ ณ วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563)
ระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยการจัดทำทะเบียนสมาชิกและทะเบียนหุ้นของสหกรณ์ พ.ศ. 2564 ซึ่งกำหนดแบบรายงานรายการในทะเบียนสมาชิกและทะเบียนหุ้น หรือ แบบรายงานการเปลี่ยนแปลงรายการในทะเบียนสมาชิกและทะเบียนหุ้น ในช่องประเภทสมาชิก อธิบายว่า “ประเภทสมาชิก ให้กรอก 1 = สมาชิก 2 = สมาชิกสมทบ”
แล้วไปเอาคำว่า
“สมาชิกสามัญ” มาเรียกสมาชิกสหกรณ์ จากที่ไหน ผมลอง ๆ ไปค้นดูกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ดังนี้
1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตราที่ว่าด้วยสมาคม (เพื่อกระทำการใด ๆ
อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน)
ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด มีบทบัญญัติ เรื่อง
สมาชิกของสมาคม
หุ้นส่วนและหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนสามัญและห้างหุ้นส่วนจำกัด
และผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัด
2. พระราชบัญญัติบริษัทมหาชน
จำกัด พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีคำว่า
“หุ้นบุริมสิทธิ” “หุ้นสามัญ” และเรียกผู้ถือหลักทรัพย์ดังกล่าวว่า “ผู้ถือหุ้น”
3. พระราชบัญญัติ การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติว่า “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ (มาตรา 4)
เมื่อไปค้นดูคำว่า
“สมาชิกสามัญ” ส่วนใหญ่จะใช้เรียกประเภทสมาชิกของสมาคมต่าง ๆ เช่น ในสมาคมหนึ่ง ๆ
อาจมีสมาชิกประเภท สมาชิกสามัญ สมาชิกวิสามัญ สมาชิกกิตติมศักดิ์ สมาชิกสมทบ
สมาชิกภาคี สมาชิกกิตติมศักดิ สมาชิกทั่วไป เป็นต้น
สรุป เราไม่เรียก “สมาชิกของสหกรณ์” ว่า สมาชิกสามัญครับ และขอร้องเลยนะครับ เราไม่เรียกสมาชิกของสหกรณ์ว่า "ลูกค้า" หรือ "ผู้ถือหุ้น" เด็ดขาด เพราะขัดต่ออุดมการณ์และหลักการสหกรณ์ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น