ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 เครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงิน เพื่อสถาบันการเงินรูปแบบสหกรณ์มั่นคงอย่างยั่งยืน
ผมสั่งซื้อหนังสือ Financial
Crisis ตรวจจับข้อผิดพลาดทางการเงิน
ได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ตั้งใจว่าจะเอาไว้อ่านตอนอายุ 60
แต่มีแรงจูงใจพิเศษจึงหยิบมาอ่านซะหน่อย
ผู้เขียนหนังสือดังกล่าวเกริ่นไว้ในคำนำได้อย่างน่าสนใจโดยสังเขปว่า
“บริษัทที่ยื่นขอเลิกกิจการ ร้อยละ 20
มาจากปัจจัยภายนอกที่อ้างถึงสาเหตุทางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ร้อยละ
80 ที่เลิกกิจการไม่ได้แจ้งสาเหตุ
ซึ่งคาดเดาเอาว่าน่าจะเกิดจากปัจจัยภายในที่น่าจะบริหารจัดการได้ง่ายกว่าปัจจัยเสี่ยงภายนอก
แต่กลับเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวของธุรกิจ ปัญหาหรือวิกฤตทางการเงินของธุรกิจทั้งหมด
ล้วนแต่เกิดจากการบริหารจัดการที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม หรือดําเนินกลยุทธ์ไม่เหมาะสม
หรือเป็นผลพวงมาจากการที่ผู้บริหารมีพฤติกรรมในการดําเนินธุรกิจที่ไม่เหมาะสมเอง
ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรจัดการกับกิจกรรมในภาวะปกติเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กิจการ
และกําหนดนโยบายที่เหมาะสมในแต่ละด้าน”
เมื่ออ่านคำนำส่วนนี้จบผมนึกถึงเหตุการณ์ช่วงปี
2540 ที่เรียกว่า The Tum Yum Kung Crisis ส่วนหนึ่งของวงศาวิทยาว่าด้วยวิกฤติทางการเงินครั้งนั้น
ผมจำได้ว่ามีธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งล่มสลาย
สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ ของผู้บริหารธนาคารแห่งนั้น และลุกลามสร้างผลกระทบอย่างมหาศาลต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของวิกฤติการเงินครั้งนั้น
หลังจากวิกฤติต้มยำกุ้ง
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงของระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ
เพื่อป้องกันและลดโอกาสของความเสี่ยงด้านต่าง ๆ
เพื่อให้สถาบันการเงินทั้งระบบมั่นคง โดยให้ความสำคัญกับความเสี่ยงหลัก 5 ด้าน
ได้แก่ ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk) ความเสี่ยงด้านเครดิต
(Credit Risk) ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) และความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ
(Operation Risk)
สถาบันการเงินทั้งระบบที่ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงตามแนวทางดังกล่าว
คงต้องนับรวมสหกรณ์ออมทรัพย์ (ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดสถาบันการเงินและอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินอาจคิดได้จากผู้กู้ยืม
(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2526) สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน (ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
กำหนดสถาบันการเงินและอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินอาจคิดได้จากผู้กู้ยืม
(ฉบับที่ 12) พ.ศ.2550) และสหกรณ์ประเภทอื่น ซึ่งดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้กู้ยืมเงิน
การรับฝากเงิน และการลงทุนทางการเงิน ตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ.2542
และที่แก้ไข
ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ที่กำลังทยอยประกาศใช้ ผมมองว่าเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินในระบบสหกรณ์
เพื่อป้องกันและลดโอกาสของความเสี่ยงด้านต่าง ๆ
อันจะนำมาซึ่งความมั่นคงทางการเงินของระบบสหกรณ์ สหกรณ์มั่นคง สมาชิกก็อุ่นใจ
สังคมไทยโดยรวมก็เข้มแข็ง
เพราะสหกรณ์เกี่ยวข้องผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมทั้งในมิติด้านจำนวนและมิติด้านความหลากหลาย
มีข่าวสหกรณ์ไม่กี่แห่งดำเนินงานล้มเหลว
สังคมก็สั่นสะเทือน ผมว่าเราบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุกกันเสียแต่วันนี้
เพื่อความมั่นคงของระบบสหกรณ์ในวันนี้และวันข้างหน้า
จะเกิดผลดีต่อขบวนการสหกรณ์และระบบเศรษฐกิจของชาติที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ที่กำลังประกาศใช้
จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่หนุนเสริมความเข้มแข็งทางการเงินของระบบสหกรณ์
โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ตลอดจนเป็นเครื่องมือในการป้องกันและลดโอกาสของความเสี่ยงด้านต่าง
ๆ เพื่อให้สถาบันการเงินทั้งระบบของประเทศมั่นคงตามเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น