1. ข้อกฎหมาย
1.1
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาตรา
41 สหกรณ์ตามมาตรา 33/1 อาจรับสมาชิกสมทบได้
สมาชิกสมทบต้องเป็นบุคคลธรรมดาซึ่งบรรลุนิติภาวะ
เว้นแต่สหกรณ์ตาม มาตรา 33/1 (4) (6) หรือ (7)
ที่ตั้งอยู่ในสถานศึกษาอาจรับผู้ศึกษาในสถานศึกษานั้นซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะให้เป็นสมาชิกสมทบได้
สมาชิกสมทบต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนสหกรณ์ประกาศกำหนด
คุณสมบัติอื่น
วิธีรับสมัคร และการขาดจากสมาชิกภาพ ตลอดจนสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสมทบ
ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับโดยความเห็นชอบของนายทะเบียนสหกรณ์
ห้ามมิให้สหกรณ์ให้สิทธิแก่สมาชิกสมทบในการนับชื่อของสมาชิกสมทบเข้าเป็นองค์ประชุมในการประชุมใหญ่
การออกเสียงในเรื่องใด ๆ หรือเป็นกรรมการดำเนินการ
หรือกู้ยืมเงินเกินกว่าเงินฝากและทุนเรือนหุ้นของตนเองจากสหกรณ์
มาตรา 60
ในการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์
ให้จัดสรรเป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของกำไรสุทธิ
และเป็นค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
แต่ต้องไม่เกินร้อยละห้าของกำไรสุทธิ
กำไรสุทธิประจำปีที่เหลือจากการจัดสรรเป็นทุนสำรองและค่าบำรุงสันนิบาต
สหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่ประชุมใหญ่อาจจัดสรรได้ภายใต้ข้อบังคับ ดังต่อไปนี้
(1)
จ่ายเป็นเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้ว แต่ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
สำหรับสหกรณ์แต่ละประเภท
(2)
จ่ายเป็นเงินเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกตามส่วนธุรกิจที่สมาชิกได้ทำไว้กับสหกรณ์ในระหว่างปี
(3)
จ่ายเป็นเงินโบนัสแก่กรรมการและเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ไม่เกินร้อยละสิบของกำไรสุทธิ
(4)
จ่ายเป็นทุนสะสมไว้
เพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดของสหกรณ์ตามที่กำหนดในข้อบังคับ
1.2
ระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยการรับจดทะเบียนข้อบังคับเกี่ยวกับสมาชิกสมทบของสหกรณ์
พ.ศ.2563
1.3
ประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ เรื่องความสัมพันธ์ของสมาชิกสมทบกับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์
1.
ผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกสมทบของสหกรณ์จะต้องเป็นผู้ที่มีความสะดวกที่จะดำเนินธุรกิจกับสหกรณ์
และต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์ตามหลักเกณฑ์ในประกาศนี้
2.
สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
สมาชิกสมทบจะต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
2.1 เป็นบิดา มารดา สามี ภรรยาหรือบุตรของสมาชิก หรือ
2.2
เป็นบุคลากรหรือลูกจ้างที่ปฏิบัติงานอยู่ในหน่วยงานต้นสังกัดเดียวกันกับสมาชิกและได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากหน่วยงานต้นสังกัดนั้น
แต่ข้อบังคับไม่ได้กำหนดคุณสมบัติให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นสมาชิกของสหกรณ์ได้
3. สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม
สหกรณ์ประมง สหกรณ์บริการ และสหกรณ์ร้านค้า สมาชิกสมทบจะต้องมีความสัมพันธ์กับสหกรณ์หรือสมาชิกสหกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังนี้
3.1
เป็นบิดา มารดา สามี ภรรยาหรือบุตรของสมาชิก หรือ
3.2
เป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ที่ขาดคุณสมบัติเกี่ยวกับการประกอบอาชีพหลักที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกตามข้อบังคับ
2. คำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2.1
หนังสือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ กษ 1108/346 ลงวันที่ 15 มกราคม 2550 เรื่อง
การกำหนดระเบียบขึ้นถือใช้ของสหกรณ์
การที่สหกรณ์กำหนดระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่มีผลทำให้ค่าใช้จ่ายของสหกรณ์เพิ่มขึ้นในลักษณะที่เอื้อประโยชน์ต่อกรรมการดำเนินการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์โดยตรงไม่สามารถกระทำได้
หากสหกรณ์กำหนดระเบียบขึ้นถือใช้เพื่อเป็นการให้สวัสดิการแก่กรรมการดำเนินการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์
โดยการนำเงินจากการจัดสรรกำไรสุทธิที่เหลือจากการหักทุนสำรองและเงินบำรุงสันนิบาตสหกรณ์มาจัดเป็นสวัสดิการให้กู้ยืมแก่กรรมการดำเนินการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์
การจัดสรรเงินทุนดังกล่าวตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 60 (4)
ทุนสะสมไว้เพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดของสหกรณ์นั้น
ควรผ่านการจัดสรรมาเป็นลำดับตามที่กฎหมายกำหนดมาก่อน
และการกำหนดระเบียบการให้เงินสงเคราะห์ในรูปเงินกู้ยืมควรให้เฉพาะเจ้าหน้าที่สหกรณ์เท่านั้น
และต้องไม่ซ้ำซ้อนกับการให้เงินสวัสดิการอื่นที่สหกรณ์กำหนดไว้
สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและระยะเวลาการส่งชำระคืน
สหกรณ์ควรกำหนดไม่ต่ำกว่า หรือระยะเวลานานกว่าที่สหกรณ์คิดกับสมาชิกสหกรณ์
รวมทั้งระเบียบดังกล่าวควรผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่โดยกำหนดเป็นวาระการประชุมที่ชัดเจน
และเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ร่วมกันอภิปราย ซักถามอย่างละเอียดก่อนลงมติให้ความเห็นชอบ
2.2
หนังสือกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่ กษ 0404/ ว 40 ลงวันที่ 29 เมษายน 2559
เรื่องแจ้งเวียนหนังสือจากกรมส่งเสริมสหกรณ์
การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์ตามมาตรา
60 (4) เพื่อจ่ายเป็นทุนสะสมเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดของสหกรณ์ตามที่กำหนดในข้อบังคับเห็นว่า
กฎหมายสหกรณ์มีเจตนารมณ์ให้สหกรณ์สะสมทุนเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่างหากไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานปกติของสหกรณ์จึงเป็นอำนาจและดุลยพินิจของที่ประชุมใหญ่
ทั้งนี้การจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีไว้เป็นทุนสวัสดิการหรือการสงเคราะห์แก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์
สหกรณ์ควรจัดสรรทุนดังกล่าวเพียงทุนเดียว เช่น
"เป็นทุนสวัสดิการหรือการสงเคราะห์ตามสมควรแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์" เมื่อสหกรณ์กำหนดระเบียบเพื่อรองรับการใช้จ่ายเงินของทุนสะสมดังกล่าวก็สามารถจำแนกเป็นเงินสวัสดิการหรือการสงเคราะห์ของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ตามเจตนารมณ์ได้
แต่ทั้งนี้กเกณฑ์และจำนวนเงินที่จะให้สวัสดิการหรือเงินกู้แก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์ต้องไม่ดีกว่าหรือสูงกว่าสมาชิกที่เป็นเจ้าของสหกรณ์
2.3 คำแนะนำวิธีปฏิบัติทางบัญชีเกี่ยวกับระเบียบของสหกรณ์ว่าด้วยเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงานสหกรณ์
(บันทึกข้อความ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่
0406/12491 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2533)
1. ความพร้อมของสหกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือสงเคราะห์พนักงานสหกรณ์ที่ประสงค์จะกำหนดให้มีระเบียบว่าด้วยเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงาน
ควรกระทำต่อเมื่อสหกรณ์นั้นมีฐานะการเงินมั่นคงและมีเงินส่วนเหลือจากการทำธุรกิจปกติกับสมาชิกโดยทั่วไปของสหกรณ์เป็นที่เพียงพอแล้วจึงจะมีวามพร้อมในการแบ่งปันความช่วยเหลือไปให้แก่พนักงานของสหกรณ์ได้บ้าง
ในการนี้ ให้ผู้สอบบัญชีสหกรณ์ที่มีการกำหนดระเบียบว่าด้วยเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงานสหกรณ์ขึ้นถือใช้ให้ข้อสังเกตไว้ในรายงานการสอบบัญชีด้วยว่าสหกรณ์มีความพร้อมในการช่วยเหลือสงเคราะห์พนักงานหรือไม่เมื่อพิจารณาเทียบกับความเพียงพอในการให้บริการด้านต่าง
ๆ แก่สมาชิกในระหว่างปีและความมั่นคงของฐานะการเงินของสหกรณ์ขณะนั้น
2. การพิจารณาวงเงินช่วยเหลือสงเคราะห์พนักงาน
ตามหลักการในระเบียบว่าด้วยเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงานสหกรณ์ดังกล่าว สหกรณ์จะจ่ายเงินยืมเพื่อสงเคราะห์พนักงานทั้งหลายได้ไม่เกินจำนวนเงินที่คำนวณจากยอดคงเหลือตามบัญชีต่าง
ๆ ในข้อ 3. (1) ถึง (4) รวมกัน
3. บัญชีที่เกี่ยวข้อง
1)
"บัญชีทุนสะสมเพื่อวงเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงาน"
ใช้บันทึกรายการเงินที่สหกรณ์โอนจัดสรรจากกำไรสุทธิประจำปีเพื่อกันเป็นวงเงินสำหรับการสงเคราะห์พนักงาน
ยอดคงเหลือของบัญชีนี้จะแสดงในงบดุลหัวข้อทุนสะสมตามข้อบังคับ ระเบียบและอื่น
ๆ อย่างไรก็ตาม
หากสหกรณ์เห็นว่าวงเงินที่จะให้พนักงานสหกรณ์กู้ยืมซึ่งคำนวณได้จากบัญชีอื่นนอกเหนือจากบัญชีนี้มีเพียงพอแล้วให้สหกรณ์โอนปิดบัญชีทุนสะสมเพื่อวงเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงานนี้เข้าบัญชีเงินสำรองต่อไป
2)
"บัญชีเงินสะสมพนักงาน" ใช้บันทึกรายการเงินฝากสะสมของพนักงานที่สหกรณ์หักไว้เป็นปกติตามระเบียบว่าด้วยพนักงานและลูกจ้าง
ยอดคงเหลือจากบัญชีนี้จะแสดงในงบดุลภายใต้หัวข้อหนี้สินอื่น
3) "บัญชีเงินรับฝากประจำจากพนักงาน"
ใช้บันทึกรายการเงินรับฝากจากพนักงาน
ซึ่งสหกรณ์ทำโครงการไว้เฉพาะเพื่อกองทุนสงเคราะห์ โดยให้บันทึกบัญชีแยกต่างหากจากบัญชีเงินรับฝากประจำที่สหกรณ์รับฝากสมาชิกทั่วไป
ยอดคงเหลือของบัญชีนี้จะแสดงในงบดุลภายใต้หัวข้อหนี้สินหมุนเวียนโดยแสดงแยกเฉพาะออกจากรายการเงินรับฝาก
เพื่อให้เห็นซัด
4) "บัญชีเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงาน"
ใช้บันทึกรายการรับเงินอุดหนุน เงินบริจาคเงินช่วยเหลือ
หรือเงินอื่นใดที่ได้รับจากบุคคล องค์การ หรือสถาบันเพื่อกองทุนสงเคราะห์
รวมทั้งใช้บันทึกรายการดอกผลที่เกิดจากเงินกองทุนสงเคราะห์ อาทิเช่น
ค่าตอบแทนและค่าปรับที่ได้รับจากพนักงานผู้ยืม ฯลฯ ยอดคงเหลือของบัญชีนี้จะแสดงในงบดุลภายใต้หัวข้อหนี้สินอื่น
โดยให้แสดงต่อจากรายการเงินสะสมพนักงาน
อนึ่ง ถ้าสหกรณ์ประสงค์จะจัดสรรเงินเฉลี่ยคืนให้กับพนักงานที่ร่วมกิจกรรมกับเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงาน
ให้โอนจัดสรรจาก "บัญชีเงินกองทุนสงเคราะห์พนักงาน" นี้แทนการจัดสรรจากกำไรสุทธิประจำปีของสหกรณ์
ทั้งนี้การคำนวณเงินเฉลี่ยคืนควรคิดจากยอดดอกผลที่เกิดจากเงินกองทุนฯ ในระหว่างปี
อันได้แก่ค่าตอบแทนและค่าปรับที่ได้รับจากพนักงานเท่านั้น
5) "บัญชีลูกหนี้เงินยืมพนักงาน"
ใช้บันทึกรายการที่สหกรณ์จ่ายเงินยืมเพื่อเป็นการสงเคราะห์ช่วยเหลือแก่พนักงาน
โดยบันทึกพนักงานผู้ยืมไว้เป็นลูกหนี้ของสหกรณ์
ยอดคงเหลือของบัญชีนี้จะแสดงในงบดุลหัวข้อลูกหนี้อื่น
ทั้งนี้
ให้สหกรณ์จัดทำบัญชีย่อยเพื่อเป็นรายละเอียดประกอบบัญชีแยกประเภท (2) ,
(3) และ
(5) ที่ระบุไว้ข้างต้นด้วย
2.4 แนวทางปฏิบัติกรณีหักเงินค่าจ้างเป็นเงินสะสมของพนักงาน
(หนังสือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ กษ 1110/10165 ลงวันที่ 15 กันยายน 2543)
ลักษณะของเงินกองทุนสะสมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน หากจะมีขึ้นจะต้องเป็นข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างในสถานประกอบกิจการด้วยความสมัครใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้างเมื่อออกจากงาน โดยที่มาของเงินทุนอาจเกิดจากเงินสะสมของลูกจ้างฝ่ายเดียวหรือนายจ้างจ่ายเงินสมทบให้อีกส่วนหนึ่งด้วยก็ได้ โดยต้องไม่กำหนดเงื่อนไขให้เงินสะสมเป็นเงินประกันความเสียหายจากการทำงาน และต้องจัดทำข้อตกลงระหว่างพนักงานกับสหกรณ์ไว้อย่างชัดเจน
3. ข้อเสนอแนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น